Exotic pets
โรคของ Exotic pets
สรีระวิทยาของ Exotic pets
การเลี้ยง Exotic pets
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสุนัขและแมว
โรคประจำสายพันธุ์
การดูแลลูกสุนัขและแมวกำพร้า
โปรแกรมวัคซีนในสุนัขและแมว
โรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง
เนื้องอกและมะเร็ง
เนื้องอกหรือมะเร็งเต้านม (Canine Mammary Gland Tumors)
เนื้องอกที่อวัยวะสืบพันธุ์ (TVT)
มะเร็งกระดูกในสุนัข (Osteosarcoma)
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
ระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต
ภาวะหัวใจโต (Cardiomegaly)
โรคพยาธิหัวใจในสุนัข (Heart Worm Disease in Dogs)
โรคพยาธิหัวใจในแมว (Heart Worm Disease in Cats)
ภาวะความดันโลหิตสูง
ภาวะหลอดลมตีบในสุนัข
วิธีการตรวจโรคหัวใจ
ภาวะโลหิตจาง (Anaemia)
ระบบประสาท
การดูแลสัตว์เลี้ยงอัมพาต
ภาวะความจำเสื่อมในสัตว์เลี้ยงสูงอายุ
การบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง
ระบบสืบพันธุ์
การคุมกำเนิด
ภาวะมดลูกอักเสบ (Pyometra)
เนื้องอกที่อวัยวะสืบพันธุ์ (TVT)
โรคกระดูกและข้อ และกายภาพบำบัด
เอ็นข้อเข่าฉีกขาด
ข้อสะโพกเสื่อม
กายภาพบำบัดในสัตว์เลี้ยง
ลูกสะบ้าเคลื่อน
การดูแลสัตว์เลี้ยงอัมพาต
โรคตาในสัตว์เลี้ยง
แผลหลุมที่กระจกตา
โรคของจอประสาทตา
โรคตาแห้ง (Dry Eye)
โรคต้อหินและต้อกระจก
โรคหนังตาม้วน
โรคที่สำคัญในแมว
โรคติดเชื้อที่สำคัญในแมว
โรคระบบทางเดินปัสสาวะในแมว
โรคพยาธิเม็ดเลือดในแมว
โรคพยาธิหัวใจในแมว (Heart Worm Disease in Cats)
โรคเบาหวานในสุนัขและแมว
โรคผิวหนัง
โรคขนร่วงแบบไม่ทราบสาเหตุ
โรคผิวหนังจากเชื้อรา
โรคขี้เรื้อน
โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อยีสต์
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคระบบทางเดินปัสสาวะในแมว
ภาวะไตวายเรื้อรัง
นิ่วในสุนัข
โรคอื่นๆในสัตว์เลี้ยง
โรคเบาหวานในสุนัขและแมว
Cushings Disease
โรคอ้วนในสัตว์เลี้ยง
อุปกรณ์การแพทย์ในการตรวจวินิจฉัย
Endoscopy
ภาวะไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure)
นอกจากไตเป็นอวัยวะที่กรองของเสีย และขับของเสียออกจากร่างกายแล้ว ไตยังเป็นอวัยวะที่ช่วยผลิตฮอร์โมนในการผลิตเม็ดเลือดแดง ควบคุมความดันโลหิต และควบคุมระดับเกลือแร่ต่างๆในร่างกาย ภาวะไตวายเรื้อรัง (chronic renal failure) จึงหมายถึงการที่ไตไม่สามารถทำงานดังที่กล่าวได้เป็นปกติติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งอาจหมายถึงเป็นเดือน หรือเป็นปีขึ้นไป และอาจไม่สามารถกลับมาทำงานเป็นปกติได้อีกถ้าหากไม่รีบทำการรักษา
เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับไต ไตส่วนที่ยังไม่เสียหายจะทำงานทดแทนส่วนที่เสียหายไป และจะเริ่มแสดงความผิดปกติก็ต่อเมื่อไตเสียหายไปมากกว่า 75-80% และหากไม่ได้รับการแก้ไขไตจะเสียหายถาวร แต่หากได้รับการรักษาอาจช่วยชะลอความเสียหายที่อาจลุกลามไป และทำให้ไตที่เสียหายไปแล้ว(บางส่วน) กลับมาทำงานเป็นปกติได้
อาการเริ่มต้นเป็นอย่างไร ?
เมื่อไตเริ่มทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดของเสียสะสมในร่างกายมากขึ้น แมวจะเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร ซึม อ่อนเพลีย อาเจียน เมื่อตรวจเลือดจะพบค่า Creatinine ซึ่งเป็นค่าที่บ่งชี้ถึงการทำงานของไต และค่า BUN (Blood Urea Nitrogen) ซึ่งคือค่าของเสียที่ร่างกายจะต้องขับออกจะสูงขึ้นกว่าปกติเนื่องจากไตทำงานได้น้อยลงจึงไม่สามารถขับ urea nitrogen ออกไปจากร่างกายได้ แมวจะเริ่มปัสสาวะมากขึ้น (ทั้งปริมาณ และความถี่) ปัสสาวะจะใสผิดปกติเพราะไตไม่สามารถปรับความเข้มข้นของปัสสาวะให้ตรงกับสภาพร่างกายได้ แมวจะเริ่มมีสภาพขาดน้ำ ตัวเหี่ยว ทานน้ำมากขึ้น เสียเกลือแร่ และวิตามินที่ละลายในน้ำไปกับปัสสาวะ แมวจะอ่อนเพลียมากขึ้น อาเจียนบ่อย ไม่มีแรง มีกลิ่นปากรุนแรงเป็นกลิ่นแอมโมเนีย มีแผลเปื่อยในช่องปากรวมถึงในกระเพาะ และลำไส้ อุจจาระจะเป็นสีดำเนื่องจากมีแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ เริ่มมีภาวะโลหิตจางเนื่องจากขาดฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดง ความดันโลหิตสูง จากนั้นบางรายอาจเริ่มมีอาการชัก และเสียชีวิตในที่สุด
จะแก้ไขหรือป้องกันได้อย่างไร ?
ส่วนใหญ่ภาวะไตวายเรื้อรังที่เกิดจากไตเสื่อมจะพบในแมวที่เริ่มอายุมาก อายุเฉลี่ยที่พบคือ 9 ปี โดยปกติแล้วหากเกิดภาวะไตวายเรื้อรังอย่างถาวรแล้วจะไม่มีการรักษาที่ได้ผล ดังนั้นในระยะแรกที่ตรวจพบสัตวแพทย์จะเริ่มทำการรักษาโดยให้สารน้ำเข้าเส้นเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำ เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปที่ไต และให้สารน้ำช่วยขับของเสียออกจากร่างกายเพื่อลดความรุนแรงของโรค และช่วยไม่ให้ไตส่วนที่ยังไม่เสียหายต้องทำงานหนักจนเกินไปจนเกิดการเสียหายถาวรตามมา รวมถีงการให้ยารักษาอื่นๆตามอาการเช่น ยาแก้อาเจียน ยาลดความดัน เป็นต้น หากยังเป็นไตวายในระยะแรกเริ่ม และแมวยังไม่มีอาการผิดปกติมากนัก อาจให้สารน้ำเข้าใต้ผิวหนังแทนการให้เข้าเส้นเพื่อความสะดวกของเจ้าของ และตัวสัตว์ หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกๆ ค่าเลือดอาจกลับลงมาอยู่ในระดับปกติโดยใช้เวลาเป็นสัปดาห์ หรือหลายเดือนขึ้นกับอาการแรกเริ่ม
การประเมินผลการรักษา สัตวแพทย์จะนัดมาตรวจสุขภาพเป็นระยะ โดยการตรวจเลือดเพื่อเช็คการทำงานของไต ตรวจวัดระดับฟอสฟอรัสในกระแสเลือด วัดปริมาณเม็ดเลือดแดง ตรวจปัสสาวะ วัดความดันโลหิต หากเริ่มมีภาวะโลหิตจาง สัตวแพทย์จะฉีดฮอร์โมนทดแทนฮอร์โมนที่ไตผลิตเพื่อสร้างเม็ดเลือด รวมถึงคอยควบคุมระดับความดันโลหิตให้คงที่
ในระยะยาวหลังจากอาการเริ่มดีขึ้น แมวควรได้รับอาหารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการทำงานของไต ควรเป็นอาหารที่มีฟอสฟอรัสต่ำและโปรตีนต่ำในระดับที่เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันจะมีอาหารสูตรรักษาโรคต่างๆซึ่งสัตวแพทย์จะเป็นผู้แนะนำอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายแมวได้ แมวโรคไตที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและตอบสนองต่อการรักษาจะสามารถมีสุขภาพที่ดีได้อีกอย่างน้อย 1-2 ปี
โรงพยาบาลสัตว์ศรีวรา
1325 ซอยลาดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพ 10310
โทรศัพท์ 0-2530-7636-7 แฟกซ์ 0-2530-7633
Copyright © 2011 Sriwara Animal Hospital Co. ,Ltd. All rights reserved.